วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ซุปเปอร์แม่

อ่านต้นฉบับก่อนมีการเฉลยนิทาน และการวิวาทะ ก่อน/หลัง การโพสท์นิทาน
ได้ที่ :
ระบบการสื่อสารขัดข้อง : Fallacy & ตรรกะวิบัติ

คำเตือน : S.M.F. Pedboard ...ที่มีการวิวาทะเกือบๆ ๓๐๐ คอมเม้นท์นั้น !!
มีคำไม่สุภาพอยู่มากมาย เพราะเปิดเป็นเว็บบอร์ด "เสรี" !!
โปรดใช้วิจารณญานในการ "เข้าไปอ่าน" .. ด้วยนะครับ !!!




นิทานเฉลยเรื่่อง : ยอดแห่งมารดา


One Upon a Time .......

ในกาลครั้งหนึ่ง..



ผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นบางคน ....

สร้างความเสียหายในชีวิตกับเด็กชายคนหนึ่งในวัยเด็ก เพราะการขัดผลประโยชน์ทางการค้า !! 

เพียงด้วยกระสุนลูกโม่ไม่กี่นัด....ราคา ๔ นัดไม่ถึงร้อย.....
ส่งผลต่อเนื่องไปเป็นลูกโซ่ เรียกให้ถูกด้วยลิ้นไทยสมัยนี้.. คือล้มเป็นโดมิโน....

ก็แค่กระสุนปืนลั่น !
ก็แค่ใครบางกดไกปืน ทั้งๆที่คนๆนั้น สามารถเอานิ้วออกจากโกร่งไกได้ทุกเมื่อ ถ้าคิดดี ?

โดมิโนตัวแรกที่ล้ม...     
ชายร่างใหญ่ที่ล้มลงจมกองเลือดแดงฉานจากแผลกระสุน ๔ นัด  ...ได้สร้างแม่ม่ายขึ้นหนึ่งคน 
และเธอ....ก็มีศักดิ์ศรีมากพอที่จะเลี้ยงลูกของเธอคนเดียว ไม่ยอมแต่งงานใหม่ ? 

คุณว่ามันคือเรื่องธรรมดามั๊ย ? หากคุณมองแค่ว่านี่คือเรื่องธรรมดาๆ มีอยู่มากมายดาษดื่น คุณเองก็มักอ่านพบ
ในพาดหัวของหน้าหนังสือพิมพ์รายวันกันทุกวัน ย่อมเห็นว่ามันคือเรื่องธรรมดาๆ  เพราะอ่านทีไร ก็จะพบว่าเจอ
และมีอยู่แทบทุกฉบับ 


แต่.. ข้าพเจ้าผู้เล่าเรื่อง ก็ขอตอบชี้นำตรงนี้เลย..ว่า 



เรื่องนี้.. ไม่ธรรมดา?


โดมิโนตัวที่สองที่ล้ม...

เด็กชายไร้บิดาหนึ่งคน .. ที่ปกติมีสภาวะล่อแหลมเชิงสังคมอยู่แล้ว 
ด้วยเจ้าหนูนั้น เกิดมาด้วยอาการเอ็นข้อเท้าไม่คลายตัว..

เจ้าหนูน้อยหน้าตาน่ารัก ซึ่งมีข้อเท้าในแบบที่ต้องเดินเขย่งเท้าไปตลอดชีวิต.... 
ไม่เคยได้รับความรู้สึกละเอียดอ่อนแบบเด็กชายเล็กๆทั่วไปควรได้..

ไม่มีพ่อที่ประคอง.. ในเวลาที่หนูน้อยล้ม เพราะยังด้อยทักษะการทรงตัว.. !  

ไม่มีพ่อให้ปีนเล่นเพื่อความสนุกสนาน ยามที่เจ้าหนูจินตนาการว่ากำลังไต่ภูเขาใหญ่.. !

ไม่มีพ่อให้กำลังใจ...แบบที่มีแต่สายใยแบบผู้ชายเท่านั้นที่จะสัมผัสได้.. 
ในยามที่เจ้าหนูขาดความมั่นใจในตัวเอง เมื่อวันที่ต้องไปโรงเรียนวันแรก...มาถึง..

ไม่มีพ่อที่คอยพูดว่า... ไม่เป็นไรลูก.. สู้ๆๆ.... ในยามที่ต้องเขย่งเท้าเดิน ไปในที่สาธารณะ.. 
โดยมีสายตามากมายจ้องมองมาจากคนที่เจ้าหนูไม่คุ้นหน้า..

ไม่มีคุณพ่อที่คอยอุ้มเจ้าหนู ..ขึ้นไปบนส่วนยอดของสไลเดอร์ตามสนามเด็กเล่น... 
ปล่อยตัวหนูน้อยลงมาจากยอด เลื่อนลงอย่างรวดเร็วสู่ด้านล่างโดยมีคุณแม่คอยรับอยู่.. 
แล้วเจ้าหนูก็จะได้หัวเราะลงลูกคอตามประสา...

เพราะมันช่างน่าตกใจ !  ช่างน่าตื่นเต้น ! .. เอาอีกฮับๆๆๆๆ  


ไม่มี... ไม่มี.. ไม่มีทาง !!!! 

  
ไม่เคยมีเรื่องอะไรอย่างนั้น ภาพที่สวยงามอย่างนั้นไม่เคยเกิดขึ้น กับส่วนบันทึกภาพในสมองของ
เจ้าหนูตัวกลมๆแก้มป่องคนนี้ !!

ไม่เคยมี !!!

โดมิโนตัวที่สาม..
หญิงเดี่ยวที่แกร่งมากพอที่จะเลี้ยงลูกให้โตด้วยตัวเอง.... เธอผู้เป็นม่ายต้องทำงานหนัก 
เพราะเธอ..ไม่อยากทำตามค่านิยมสมัยก่อน.. ถ้าอยากสบายให้มีผัวใหม่ !

แล้วลูกเล็กๆสามขวบกว่า.. จะรู้สึกอย่างไร ?!

การมีผู้ชายตัวใหญ่ๆหน้าตาท่าทางไม่คุ้นหน้า... มาอยู่ในบ้าน  ... แล้วลูกจะคิดอย่างไรกับเธอ ?

ขี้ปากชาวบ้านทำร้ายแม่ม่ายมาหลายพันปีเสมอมา.. สังคมด้อยคุณภาพโดยองค์รวม รวมถึงการทำกริยา
และแสดงออกตามละครทีวีจากดาราในจอ ต่อทัศนคติของคำว่า แม่ม่าย..นั้น..ง่าย มีให้เป็นตัวอย่าง..อยู่ทั่วๆไป !!

แม่ม่ายผัวตาย ! .... ผัวเป็นอะไรตาย ? .... โดนยิง ! ..... ทำไมโดนยิง ?

และสารพัดมากมาย !!! ตัวเธอเองก็มักได้ยินแว่วเข้าหูเสมอๆ.. ในตอนเข้าห้องน้ำหญิง
ที่เธอเคยแอบไปซับน้ำตาที่ล้นออก.. มันล้นออกมาจากข้างในอก .. ให้ใครเห็นไม่ได้ ... 

ใจหญิงม่ายรวดร้าว
....


แค่คนปกติธรรมดาๆ การจะสร้างกำลังใจให้ต่อสู้ชีวิตยังเป็นเรื่องยาก.. 
แต่นี่...เธอ.. คือแม่ม่ายที่ลูกยังเล็ก ... และเธอต้องสร้างมันขึ้นมาให้ได้ 
ต้องสร้างกำลังใจขึ้นมาให้ได้ .. เพื่อลูก !

ไฟระอุภายในเบื้องลึกในหัวใจของสาวม่าย ในยามค่ำคืน ..

ที่เธออยากกรีดร้องระบายมันออกมา...

กรีดร้องระบายออกมา !!!



แต่เธอทำอย่างนั้นไม่ได้เด็ดขาด !


สายเลือดตัวน้อยๆของเธอ....กำลังหายใจเบาๆอยู่ข้างหน้าอกอย่างเช่นที่เจ้าหนูทำอยู่ทุกวัน...
ทำอย่างนั้นไม่ได้......ลูกหลับอยู่ !!!

นั่นคือผลกระทบตรงๆที่เกิดกับผู้หญิงคนหนึ่ง !!!

จากคนสิ้นคิดบางคน  ที่เห็นชีวิตของผู้อื่นไร้ค่า !!! และตัดสินใจ..ว่าต้องทำลายทิ้ง !!



โดมิโนตัวที่สี่...


ความอาภัพของหนูน้อยวัยสามขวบกว่าอาจไม่เลวร้ายจนเกินไป.... 
คำพูดที่ว่าเรื่องดีๆมักจะมีขึ้นเมื่อเกิดเรื่องร้ายๆ นั้นจริงหรือไม่ ไม่มีใครรู้.. 
ดูเหมือนว่าทางข้างหน้า.. อาจไม่ตีบตันเช่นที่เธอผู้เป็นม่ายเคยคิด... 

บางที มันอาจเป็นแค่เรื่องกรรมเก่าที่เธอต้องมาสูญเสียสามีตั้งแต่วัยเพียงสาวกลางคน... 
ก็เพียงเพื่อว่า..เธอจะได้พิสูจน์น้ำใจของน้องสาวเพียงคนเดียวของเธอ..

ว่าสายสัมพันธ์ระหว่างพี่สาวน้องสาว.. อาจต้องถูกพิสูจน์.. 
เลยทำให้เธอต้องกลายเป็นม่ายลูกติด...ก็เป็นได้

เธอผู้โชคร้าย.. 
มีน้องสาวที่โชคดีในชีวิตพอสมควร ตามคุณค่านิยามที่สังคมกำหนดอยู่ทั่วไปว่า..มีฐานะดี.. 
น้องสาวผู้ผูกพันกันอยู่แบบอาทรห่วงใยกับพี่สาว..ที่กำลังอับโชค..ยื่นมือเข้าช่วยเหลืออย่างทันท่วงที..

การมีครอบครัวขนาดใหญ่ของสังคมชานเมืองกรุง.. เผยคุณลักษณะออกมาว่าเป็นเรื่องดีอีกซอกมุมหนึ่ง..
ในประเทศที่เรียกกันว่าเมืองแห่งรอยยิ้ม..ประเทศนี้....   

แต่.. ฐานะปานกลางของน้องสาว.. เป็นอีกเรื่อง.. 
การรับผิดชอบชีวิตของลูกชาย ก็เป็นอีกเรื่อง...  

แม่ม่ายผู้อาภัพท่านนี้.. ตัดสินใจ ที่จะเลือกทางเดินชีวิตในแบบที่เธออยากเป็น และอยากทำ 
เพื่อคงเหลือเรื่องเดียวที่เป็นของเธอ.. ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ !!!  ศักดิ์ศรีของแม่ม่ายลูกติด !!!


เมื่อสามสิบกว่าปีก่อน.. การเรียนจบเพียงประถม ๔ เป็นเรื่องที่เป็นปกติโดยทั่วไป หากวัดกันที่ตัวอักษร
ก็คงได้คุณค่าด้านการศึกษาเทียบเท่าประถม ๖ ในสมัยนี้..

แต่หากไปวัดคุณค่าเชิงคุณภาพ กลับมีคุณค่ามากมาย ดังที่เราทุกคนรุ่นนี้สมัยนี้ ต่างโต้เถียงไม่ได้ 
ว่าทำไม? คนรุ่นก่อนจึงสร้างคนให้มีคุณภาพสูงกว่าตนได้.. 

กรณีแม่ม่ายท่านนั้นก็ไม่แตกต่าง... 

ด้วยคุณภาพที่เท่าเทียมมัธยม ๖ ในปัจจุบัน การเป็นคนมีระเบียบวินัย แบบที่คนสมัยนี้ไม่ค่อยมีกันแล้ว ..  
หรือการมีฝีไม้ลายมืออยู่พอตัว ในการขีดเขียนอักขระตัวหนังสือที่สวยงาม.. 

ดังนั้น เมื่อเธอถูกสัมภาษณ์จากครูใหญ่ของโรงเรียนอนุบาลมีชื่อแห่งหนึ่งในย่านใกล้บ้าน... 
จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจ สำหรับข้าพเจ้าผู้กำลังเล่าเรื่องแม้แต่น้อย... ที่เธอได้รับการรับเลือกโดยไร้ข้อโต้เถียง.. 
กรรมการโรงเรียนย่อมเห็นดีเห็นงาม.. ในการที่จะได้คนดีมีฝีมือมาร่วมงาน...
ใครจะดีไปกว่าคุณแม่ที่มีลูกเล็กวัยเดียวกันกับงานที่เธอเลือก... คุณครูอนุบาล.. 
นั่นคืออาชีพที่เธอเลือกได้อย่างถูกต้องอย่างยิ่ง !!


โดมิโนตัวที่ห้า..
เจ้าตัวกลมแก้มป่องของเรา ตอนนี้มีวัยได้ห้าขวบแล้ว..
หนูน้อยตัวอ้วนกลมและขี้อาย...ผู้ขาดความมั่นใจในตัวเอง... กำลังแอบมองเจ้าตัวการ์ตูนที่วิ่งไปวิ่งมา
อยู่ในเครื่องเกมส์ ที่ลูกพี่ลูกน้องวัยอ่อนกว่ากำลังบังคับหุ่นยนต์ในจอภาพ ....

อย่างสงสัย ?

หน้าตาพีชายน้องสาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องวัยใกล้เคียงที่เล่นเกมส์อยู่นั้น.. ดูมีความสุข... 

ความสุข ?  ใช่แล้ว.. จำได้แล้ว !!


ตอนเจ้าหนูตัวกลมทำหน้าตาประหลาดใจและดีใจ ที่เวลาแม่กลับจากทำงานแล้วมีขนมมาฝาก... นั่นไง !!

เสียงหัวเราะของลูกชายตัวกลมๆเพราะกำลังมีความสุข 
ที่สร้างรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้าของผู้เป็นแม่จนเธอหายเหนื่อยนั้น.. 

ความสุขนั่นเอง !!  จำได้แล้ว !!....  

สมองเจ้าหนูน้อยไม่ได้ผิดปกติเหมือนที่ข้อเท้าทั้งสองเป็น สมองเด็กวัยเกือบ ๖ ขวบ ประมวลผลได้ว่า 
มันคืออันเดียวกัน .. !

ประกายในดวงตาของแม่ กับประกายตาของลูกพี่ลูกน้อง 
ที่กำลังนั่งบิดแป้นควบคุมไปมาอยู่ในห้อง .. ความสุข !!


ตอนนี้ เจ้าหนูของเรากำลังแอบดูอะไรอยู่ ?


เจ้าสี่เหลี่ยมมีแสงนั่น เจ้าหนูตัวกลมจำชื่อเรียกมันได้.. มันเรียกว่าที.วี. 
และเจ้าที.วี. มันก็จะมีไอ้ตัวการ์ตูนแบบที่แม่เคยสอนให้วาด.. วิ่งอยู่ในนั้นได้ด้วย น้าสาวใจดีเคยให้นั่งดูบ่อยๆ !!


แต่...แต่ตอนนี้ ไอ้แสงวูบๆวาบๆและมีเสียงดังน่าตื่นเต้นในจอ.. ทำไมหุ่นยนต์มันเดินไปเดินมาได้ 
ด้วยการควบคุมจากก้อนกลมๆมีปุ่มหลายสีนั่นด้วยล่ะ !! 

ไม่ว่าจะแอบดูคราวใด? หนูน้อยก็จะสงสัยอยู่เสมอ 

แต่ก่อนที่ความสงสัยนั้นจะได้คำตอบ..
เจ้าหนูตัวกลม ต้องรีบก็เขย่งเท้าแบบเต็มความพยายามเพื่อที่จะไป.. ให้เร็วๆจากหน้าห้องนั่น .. 


น้าเขยตัวโตเสียงดังกลับมาบ้านแล้ว !!



ข้อมูลและเหตุผลสารพัดที่ประมวลผลอยู่ในสมองน้อยๆ บอกเจ้าหนูว่า.. 

วันนี้ !! หมดเวลาทำกิจกรรมแอบดูความสนุกของลูกพี่ลูกน้อง ที่อุตส่าห์คิดขึ้นมาได้ซะแล้ว !!



สำหรับชายวัยกลางคน ..ผู้เป็นเจ้าของกิจการรับเหมาก่อสร้างเล็กๆน้อยแถวตำบลเล็กๆที่อาศัยอยู่ 
การมีญาติภรรยาเข้ามาอาศัยพึ่งใบบุญ ในขณะที่ตัวเขาเองก็มีลูกชายหญิงสองคน ที่ต้องรับผิดชอบ.. 

แม้ไม่ใช่ภาระอะไรมากมาย ที่ต้องเสียสละห้องว่างๆให้คนที่กำลังลำบากมาหลับนอนอยู่ในบ้าน 
จะอย่างไรก็ถือว่าเป็นญาติกันอยู่..

แต่ชายผู้นี้..ก็ไม่ค่อยสบายใจอะไรนัก.. ข่าวลือหนาหูที่เขาได้ยินมาต่างหาก ที่เขากังวล... 
ข่าวซุบซิบนินทาในตลาด ยามที่เขาออกไปนั่งกินโอเลี้ยงที่ร้านเจ้าประจำ..

พี่สาวภรรยาหลบภัยชีวิต หนีตายมาจากการขัดแย้งธุรกิจไฟแนนซ์ในเมืองกรุงเทพฯ
ลือกันว่าผัวโดนยิงตาย.. คาเต็นท์รถ 
ทีกรอกหูอยู่ทุกเช้าตอนกัดปาท่องโก๋แกล้มกาแฟต่างหาก 


ที่มันรบกวนจิตใจของเขาอยู่...


โรคหวาดระแวงซึ่งอันที่จริง ชายผู้เป็นน้าเขยนี้ จริงๆแล้ว ก็ไม่ถึงกับเป็นการวิตกกังวลเกินเหตุที่จะกังวล 


ในวันใด...ที่เขาทำงานมาเหนื่อยๆ หรือหลังจากการดื่มตั้งวงแบบหอมปากหอมคอ..กับพวกลูกน้อง...
ความเหนื่อยล้า บวกความเมา.. ก็มักทำให้ลืมเรื่องคาใจไปได้..


แต่วันใดที่สติสัมปชัญญะครบถ้วน เช่นในวันหยุดงาน หรือเมื่องานที่ไปรับเหมาสิ้นสุดลง แล้วเขาต้องหยุด
พักผ่อนอยู่ที่บ้านกับลูกๆคราวละหลายๆวัน 

มันมักทำให้ความหวาดระแวงลึกๆที่ซ่อนไว้นั้น.. ปรากฏออกมาอยู่เสมอ... 


เมื่อใดก็ตามที่เขามาเห็นเจ้าเด็กตัวกลมผู้เดินเหมือนเต้นบัลเล่ต์อยู่ตลอดเวลา มาแอบดูที่วีในห้องของเขา
จากช่องประตู หรือในเวลาที่ภรรยาของเขา แอบพาหลานชายเข้าไปดูทีวีหรือเล่นเกมส์ในห้อง.. 

หรือในเวลาที่เขาออกไปดื่มกับเพื่อนๆ พอเขากลับบ้านเร็วกว่าที่เคย เขามักจะพบว่าเจ้าหลานชายที่มีพ่อเป็น
นักเลงแน่ๆจึงโดนยิงตายนั้น !

..นั่งอยู่บนตักน้าสาว.. หัวเราะไปตามประสาเด็กกำลังสนุก 


นั่นเป็นสิ่งที่เขาไม่ชอบ!



ด้วยความรู้ประถม ๖ ที่มีอยู่ เขาอธิบายไม่ได้ 

เขารู้แค่ว่าไม่ถูกชะตากับเด็กคนนี้ !




ด้วยความเข้าใจของเด็กน้อย ผู้มีมันสมองฉลาดเฉลียวเกินกว่าเด็กวัยเดียวกัน 
ทั้งจากตาที่มองเห็นและจากหูที่ได้ยิน ในเวลาที่มีเสียงเอะอะโวยวายดังลอดตามออกมาจากห้องน้าเขยร่างใหญ่.. 

ยามเมื่อเขาถูกประคองออกมาจากห้องโดยน้าสาว เป็นเหตุผลที่แม้เด็กอายุสามขวบก็ยังเข้าใจ การรังเกียจ  !!

หนูน้อย...ผู้กำพร้าพ่อไว้คอยปกป้องยามภัยมา จึงใช้หลักการง่ายๆของเด็กห้าขวบ..
แล้วพูดกับตัวเองว่า.. ไม่ชอบเรา ก็ไม่ต้องเล่น ไม่เห็นจะเป็นอะไร ? 

ในยามใกล้ค่ำของวันต่อมา.. เมื่อน้าสาวผู้อารีทำท่าจะเดินเข้ามาประคองให้เข้าไปเล่นเกมส์เช่นเคย.. 
เด็กชายตัวกลมจึง.. เลือกที่จะปฏิเสธ 

การป้องกันตัวระดับจิตวิทยาทำงานโดยอัตโนมัติจากระบบป้องกันภัยตามธรรมชาติ.. 
และด้วยมันสมองของเด็กวัยห้าขวบ... การโกหกครั้งแรกในชีวิต !

" ป๋มไม่ชอบเกมส์ .. มันหนวกหู แม่บ็อกว่า หูกางๆได้ยินง่าย ป๋มไม่อยากเล่นแล้วคับ "..

น้ำเสียงของเด็กที่กำลังโกหกผู้ใหญ่ด้วยการหลบตา และซ่อนมือน้อยๆทั้งสองไว้ข้างหลัง...
น้าสาวผู้อารี.. มีหรือ? จะดูไม่ออก.. 

เธอได้แต่ถอนใจออกมาเบาๆ ลูบหัวหลานชายอย่างเอ็นดู ใจอยากสอนหลาน...ว่าไม่ควรโกหก ก็จริงอยู่
แต่เธอกลับรู้สึกว่า การที่หลานชายตัดสินใจโกหกด้วยเหตุผลที่ให้มา.. มันก็เข้าที  เพราะอย่างไรก็ตาม 
แม้เพียงจะห้าขวบ มันก็ถือว่าคือการตัดสินใจของเจ้าตัว..

เธอต้องยอมรับเหตุผลที่หลานชายบอกออกมา.. แล้วเดินเลี่ยงลงไปชั้นล่าง.. 
แต่หางตาของเธอ..อดชำเลืองมองกลับมาดูหลานชายไม่ได้.. 

หลานชายตัวกลมๆของเธอ ยังยืนด้วยท่าประหลาดๆที่เธอคุ้นตา อยู่ที่หน้าประตูห้อง..!!

สายตาของเจ้าหนู.. กำลังจ้องตรงเขม็ง ... ไปยังช่องเล็กๆอย่างที่เคยทำอยู่ทุกวัน แสงที.วี.ที่ลอดออกมาจาก
ช่องนั้น แสงมันแรงพอที่จะมองเห็นว่า.. หนูน้อย..กำลังน้ำตาคลอ...


สำหรับผู้เป็นน้าเขย การหวาดระแวงที่มีผลจากข่าวกระซิบแบบปากต่อปาก ตามร้านกาแฟ ยังคงรบกวนจิตใจเขา
แทบทุกวัน เบื้องต้นเท่าที่เขาคิดออก จึงได้ตัดสินใจตั้งกฎในฐานะเจ้าของบ้านขึ้นว่า หลานชายผู้นี้ ไม่ควรหยิบจับ
ของเล่นใดๆของลูกๆทั้งสองของเขาโดยมีเหตุผลให้กับภรรยาไปว่า หลานชายคนนี้ แค่เดินยังแทบเอาตัวเองไม่รอด 
หากถือของเล่นแพงๆอยู่ในมือแล้วหกล้ม ของที่เสียหาย อาจไม่ใช่เพียงของเล่นแสนแพงของลูกเรา 
เจ้าลูกนักเลงนั่นอาจสร้างความเสียหายอื่นๆตามมา 

ดังนั้น !! สามพี่น้องเล่นกันได้ แต่ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป.. ..ห้ามเอาของเล่นที่มีราคามาเล่น..

ด้วยเหตุผลข้อนี้ของสามี ผู้เป็นภรรยาจึงได้แต่มองอย่างเวทนาไปที่หลานชาย
ที่กำลังนั่งเล่นดินน้ำมันสามสี่ก้อนอยู่แถวหน้าบันได 

และเธอแน่ใจว่า หูที่แสนพิเศษคู่นั้น จะได้ยินกติกานี้ !!!


และแน่นอนว่า... เจ้าหนูห้าขวบผู้เริ่มมีเดียงสา.. ย่อมจะรู้ได้ว่า เจ้าของเล่นแพงๆที่ว่า 

มันก็มีแค่เจ้าเครื่องเล่นเกมส์เครื่องนั้น !!



โดมิโนตัวที่หก..
เมื่อวันไปโรงเรียนวันแรกมาถึง เจ้าหนูผู้มีท่าการเดินประหลาดๆสวยงามเหมือนนักเต้นบัลเลต์ของเรา 
รู้สึกตื่นเต้นยิ่งนัก !! เพื่อนมากมายที่โรงเรียน ต้องมีสักคนที่ต้องเล่นกับเราแน่ๆ เจ้าหนูคิดอย่างมีความหวัง .. 

แม่ผู้มั่นคง จูงเจ้าหนูไปโรงเรียนแบบไม่รีบร้อน และอย่างเข้าใจจังหวะการกะระยะของลูกชายเป็นอย่างดี .. 
สิ่งเดียวที่เป็นของเธอคือลูก เธอต้องทำให้ลูกชายของเธอ อยู่ในตำบลเล็กๆนี้ได้อย่างภูมิใจในในตัวเองให้ได้  

ก้าวที่ไกลและยาวของลูก จะเริ่มต้นด้วยถนนเส้นแรกที่เจ้าหนูจะต้องเรียนรู้ !!


วันนี้ !! คือการเดินด้วยรองเท้าผ้าใบครั้งแรก ท่ามกลางสายตาคนจำนวนมาก ที่กำลังจ้องมองดูท่าเดิน
อันเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าหนู !!!

ผู้เป็นแม่ที่รักลูกสุดหัวใจ เคยฝึกให้ลูกชายเดินด้วยรองเท้าคู่นี้ที่บ้านพัก 
เมื่อเธอพบว่าการคำนวณความฝืดจากผิวถนนของลูกชาย มีความสมบูรณ์แล้ว 
เธอจึงสูดลมหายใจลึกๆ แล้วกลั้นใจ ! ปล่อยมือลูกชายแบบระมัดระวังและอย่างเตรียมตัว และรอบคอบ !!

ลูกชายมีอาการหน้าคะมำไปข้างหน้าเพียงแว่บเดียวเมื่อแม่ปล่อยมือ ! 
จุดศูนย์ถ่วงทั่วร่างกาย สมอง กล้ามเนื้อ เส้นประสาทของเจ้าหนู !!
ปรับตัวด้วยเวลาเพียงเสี้ยวของเสี้ยวของวินาที ร่างกายและสมองทำงานสัมพันธ์กันอย่างรวดเร็ว  !

นี่..ไม่ใช่การเดินครั้งแรกของสมอง จุดศูนย์ถ่วงทุกอย่างของเจ้าหนู จึงเข้าสู่สมดุลย์ในแทบจะพริบตา !!

เจ้าหนูตัวกลมเริ่มรู้สึกสนุก แน่นอนว่านี่ไม่การเดินคนเดียวครั้งแรกของแก.. แต่เป็นการเดินด้วยรองเท้านักเรียน
บนถนนของโรงเรียน ที่ออกแบบไว้เฉพาะให้เด็กเท้าเล็กๆในวัยประถม เป็นครั้งแรก !!

ผู้เป็นแม่มองดูลูกชายด้วยสายตาที่ปลาบปลื้ม  เจ้าหนูเดินไปตามขอบถนนที่ค่อยๆลาดเอียงเข้าสู่การราบเสมอกัน 
ตามเจตนาการออกแบบที่ได้แฝงไว้.. ทางลาดเอียง.. ก็เพื่อป้องกันอันตรายเมื่อเด็กเล็กๆวิ่งเล่น !!

แม้มองลูกจากด้านหลัง เธอก็ยังรู้  ว่าเจ้าถนนนั่น มันถูกใจลูกชายของเธอมากแค่ไหน !!

ตั้งแต่วันนี้ ! .. และในวันต่อๆไปอีกหกปี ลูกของเธอ จะจำทุกองศาลาดเอียง และจะจดจำก้อนหินทุกก้อนบนถนน 
ของโรงเรียนนี้ เพื่อให้การเดินของตัวเขาเองมีความปลอดภัย ในทุกครั้งที่เขาก้าวขาออกไป !!


มีเรื่องที่น่าสนใจเกิดขึ้นกับเจ้าหนูตัวกลมในวันหนึ่ง ..

ในตอนบ่ายของวันพฤหัส สักประมาณตอนเที่ยงวัน  
เจ้าหนูของเรา ถูกครูตีที่ก้นไปแล้วสามที โทษฐานที่ทำให้ตู้ปลาขนาดยาวเกือบสองเมตร 
และสูงกว่าศีรษะของเด็กประถมสองทั่วๆไปประมาณหนึ่งคืบ ที่อยู่หน้าห้องเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ แตกเสียหายยับเยิน !

ปลาและเศษกระจกถูกเก็บออกไปเพื่อไม่ไห้เป็นอันตรายกับเด็กคนอื่นๆ โดยภารโรงเรียบร้อยแล้ว 
ส่วนเจ้าหนูของเรา ก็ปลอดภัยไร้รอยขีดข่วนใดๆ แบบเหลือเชื่อ 

พอบ่ายโมงกว่าๆ คุณแม่ก็ถูกทางฝ่ายปกครองเชิญมาที่โรงเรียน หลังจากช่วยเหลือค่าเสียหายเล็กๆน้อยๆ
ช่วยทางโรงเรียน และพูดคุยกับตามประสาครูแล้ว 

เมื่อสบโอกาส..แม่ผู้เป็นครูเด็กอนุบาล ก็ขอปลีกตัวมาหาลูกชาย 

เธอมองหน้าลูกชายตัวกลมของเธอ และเกือบจะเผลอทำหน้ายิ้ม ถึงเธอรู้เหตุผลของลูกจากทางโรงเรียนแล้ว 
แต่เธอยังอยากได้ยินกับหู ได้ฟังเสียงคำตอบจากปากจิ้มลิ้ม ของลูกชายตัวน้อย


เธอพยายามอย่างเต็มที่ ในการเก๊กหน้าตาให้ดูดุๆ 


เธอซ่อนหน้าหัวเราะเอาไว้ !




นึกยังไง? ถึงได้ปีนตู้ปลา !


ดวงตาดำขลับแสนซื่อ..
มองจ้องเข้าไปในดวงตาของแม่ ..



..คนๆเดียวที่เขาไว้ใจ 
..


ผมอยากหายใจในน้ำเหมือนปลาดูบ้างครับ? แม่ !

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น