วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ชีวิตวัยเด็ก กับ ผลลัพธ์ในอนาคต

อ่านต้นฉบับได้จาก
http://smf.kindman4all.com/index.php?board=12.0



สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของวัยเด็ก
 

จะมีผลต่อเด็กคนนั้นตลอดไป !
 
( กรุว่า.. มีบางอย่าง.. แอบมาอินเซ็บชั่นกรุ แหงมๆ )



ลองอ่านข้างล่างเนี่ย.. แบบ อ่านเอาเรื่อง ดูนะครับ !!




คือ.. ชีวิตคน..มันมีสะเต็ป.. ดังนี้นะท่านๆ

๑. ความประพฤติ หรือ การกระทำ

การกระทำใดๆ ของใครก็ตาม สามารถบอกได้ว่าคนๆนั้น จะทำเรื่องนั้นๆได้สำเร็จผล หรือล้มเหลว

การกระทำที่ว่า(ผมว่าเอง แหะๆ) พวกบ้าทฤษฎีเขาแบ่งได้เป็น ๒ ส่วนหลักคือ..

 ๑.๑ ทำอะไร ? และ  ๑.๒ ทำอย่างไร ? .. รายละเอียดของ ๒ อย่างนี้ ไอ้เป็ดจะไม่พูดนะครับ ( เพราะไอ้เป็ดไม่เก่งรายละเอียดครับ.. แหะๆ )

เช่นว่า ใครก็ตามที่ทำแต่เรื่องดีๆ อย่างต่อเนื่อง ไปเรื่อยๆ และทุกครั้งที่ทำเรื่องนั้นๆ ไม่มีลักษณะ
ที่เรียกว่า "เลว" .. ตอบกำปั้นทุบดินได้เลย ว่าผลลัพธ์ที่ได้ .. ต้องดีแน่ๆ

ขณะเดียวกัน.. ตลอดการกระทำที่ทำนั้น ถ้ามีเรื่อง "เลว" เข้ามาเกี่ยวมายุ่ง ก็จะมีผลลัพธ์ "เลว" เข้ามาผสมปนอยู่..

ผลที่ได้ ก็ว่ากันไป เป็นสัดส่วนตามการ เลว/ดี ที่ปนๆกัน
ว่าดีมากกว่าเลว หรือ เลวมากกว่าดี .. อะไรประมาณนั้น !!

ถ้ายกเอาเรื่องงานที่ท่านๆผู้อ่านทำอยู่มาให้เห็นภาพ ให้เข้าใจง่ายขึ้น..
ก็เช่นว่า..

ท่านผู้อ่าน รักงานของท่านและตั้งใจทำงาน ชอบปรับปรุง ชอบแก้ไข ชอบประยุกต์ 
ชอบลงรายละเอียดในงานอยู่ตลอดเวลา..
งานที่ได้ออกมา มันก็ต้องดีแหงๆ ใช่มั้ยคับ

แต่ถ้าท่านผู้อ่าน.. ทำมันแบบขอไปที่ แบบให้มันจบๆไป ให้มันพ้นๆความรับผิดชอบซะที
ท่านย่อมรู้อยู่แก่ใจ อะเนอะ ว่างานที่ได้มันย่อมชุ่ยแน่ๆ !!

ถึงบรรทัดนี้.. คงมีบางท่านที่อ่าน แอบค่อนแคะไอ้เป็ดอยู่ในใจว่า..

กรุรู้อยู่แล้วว้อย.. มาพูดตีกินกำปั้นทุบดินแบบนี้

มรึงก็พูดถูกทั้งปีซีวะไอ้เป็ด
ค.ว.ย. ซะทีเหอะ !!


คร้าบบๆๆๆๆ ทราบคร้าบบ...

ผมกำลังจะบอกครับท่านๆ ว่าทั้งๆที่เรารู้อยู่ แยกแยะได้อยู่ ว่าอะไรดีอะไรเลว..
แต่มี อะไร บางอย่างบังคับให้เรา กระทำ เรื่องไม่เข้าท่านั้น..
แบบเราไม่รู้ตัวครับป๋ม..

สิ่งนั้นก็คือ...

๒. ความรู้สึกชอบ/ไม่ชอบ หรือ การรู้สึกดี/รู้สึกแย่ เมื่อจะกระทำเรื่องนั้นๆ


ขออธิบายแบบเรื่องเล่านะครับ..

- ทำไม ? หลายๆคนชอบกินหนอนทอด(รถไฟด่วน) .. แต่หลายคนไม่กิน หรือ ถึงกับขยะแขยง
- ทำไม ? บางคนกินผัดเผ็ดงูเห่าอย่างอร่อยปาก แต่บางคนแค่เห็นเมนูก็ผะอืดผะอมแทบอ๊วก
- ทำไม ? บางคนกินลาบเลือดอีสานหรือปลาร้าได้ แต่บางคนแค่เห็นก็แทบจะอยากเลิกคบไอ้คนที่กินไปเลย
- ทำไม ? บางคนกินน้ำจากขวดแบบยกซดทั้งๆที่เพิ่งมีคนเพิ่งยกซดไปก่อนแล้ว แต่บางคนต้องรินใส่แก้วก่อนดื่ม

.. บลาๆๆๆๆ... ฯลฯ...  และอีกมากมายหลายเรื่อง ที่ผมขี้เกียจพิมพ์ให้อ่าน !!


ลองกลับไปเรื่องงานของคุณดูนะครับ..

ถ้างานที่คุณทำชุ่ยๆเมื่อข้อตะกี้. คุณให้เหตุผลต่อไอ้เป็ดแอดมินว่า.. 
- กรุทำเกือบตายเงินเดือนไม่ขึ้นซักที..
- กรุทำอยู่คนเดียว ไม่มีอ้ายเพื่อนร่วมงานเอี๊ยซักคนมาช่วย..
- กรุทำดีมากๆเจ้านายชมกรุ.. แต่เพื่อนเขาเหม็นหน้ากรุทั้งบริษัท หาว่ากรุเป็นพวกเลียนาย..
- กรุ้ต้องใช้โน๊ตบุ๊คกรุเอง.. เพราะบริษัทฯไม่ออกงบให้ซักที แต่ละปีๆงบกำไรอืัอซ่า แต่ขี้เหนียวอิ๊บอ๋าย..

พอจะเดาออกนะครับ ว่าความรู้สึกมีผลต่อพฤติกรรม แบบเหลือเชื่อ !!

ทีนี้คุณพอจะเข้าใจบ้างนิดๆแล้วนะคับ

ว่าไอ้คนที่มันไม่กินลาบเลือดอีสาน ไม่กินปลาร้า ไม่กินหนอนทอด ฯลฯ
มันย่อมมีเหตุผลของมันอยู่.. 
มันรู้ครับ.. ว่ากินแล้วไม่ตาย เพราะคนอื่นๆเขาก็กินกันได้ แต่มันก็ไม่ยอมกิน..

แปลว่า ( ผมแปลเอาเอง แหะๆ ) มันต้องมีอะไรซ่อนอยู่อีกชั้นแน่ๆ
ที่ทำให้คนนั้นๆ มีความชอบ/ไม่ชอบ ( รู้สึกดี/รู้สึกแย่) 
ในเวลาที่จะลงมือตัดสินใจทำอะไร !!
มันต้องถูกควบคุมด้วยอะไรซักอย่างแหงมๆ

และเหตุผลที่ว่าก็คือ...

๓. แนวความคิดความเห็น(มุมมองของทัศนคติ)

จากสองข้อข้างบน..ก่อนข้อนี้

ถ้าเจ้าคนที่ยกลาบเลือดแดงๆซดโฮกๆๆ แซบหลายๆ มีความเห็น(ทัศนคติ)ว่า.. ไอ้ลาบวัวสดๆ
ที่พ่อแม่ปูทวดชาวอีสานกินมาหลายร้อยหลายพันปีแล้วไม่ตาย.. แล้วสรุปว่าลาบเลือดวัวสดๆ คืออาหาร
( เพราะถ้ากินแล้วอันตรายจริงๆ ไอ้คนกินย่อมเกิดไม่ได้ เพราะปู่ทวดตายห่านไปก่อนแหงๆ )

ไอ้อีคนนั้นๆก็จะกินลาบเลือดเป็นอาหารแบบสบายใจไร้กังวล สองเดือนก็กินยาฆ่าพยาธิทีนึง ไม่เห็นเป็นอะไร !!

ทัศนคติเชิงบวกต่อลาบเลือด ส่งผลต่อพฤติกรรมการกินลาบเลือดสดหน้าตาเฉย ได้ฉันใดฯ
ทัศนคติเชิงลบต่อลาบเลือด ย่อมส่งผลให้คนอีกกลุ่มหนึ่งไม่กินลาบเลือด ได้ฉันนั้นฯ

คิดต่อไปได้อีกว่า..

ถ้าคนที่รังเกียจลาบเลือดวัว เป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องทำหน้าที่พัฒนาการสังคม ที่ถูกย้ายจากกรุงเทพฯ ไปกินตำแหน่ง
ที่ใหญ่กว่าเดิมๆแถวๆอุดร ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ดูนะครับ..
ว่ามันส่งผลพ่วงผลพวงมากมายขนาดไหน.. 

ทั้งต่อมุมมองที่ชาวบ้านจะมีความรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่คนนี้กระแดะมากๆ..

ทั้งจากเจ้าหน้าที่รัฐ.. ที่มองว่าชาวบ้านนั้นอ่อนศิวิไลซ์ซะเหลือเกิน..

เห็นผลกระทบแฝงที่ไอ้เป็ดฝอยให้ฟังแล้วใช่มั้ยครับ !!
( นึกภาพถึง.. ทหารตำรวจที่เข้าไปตรวจหาผู้ก่อการร้ายในมัสยิด โดยไม่ดูเวลาว่าเขากำลังละหมาดอยู่มั๊ย
หรือใส่ท็อปบู๊ตและหมวกเข้าในมัสยิดดูนะครับ แล้วจะ get ว่าไฟใต้ทำไมมันมอดยากเย็นนักหนา )


คราวนี้.. ลองคิดต่อไปกับไอ้เป็ดแอดมิน.. ลองครับ ลองคิดไม่ตายครับ.. !!

ไอ้เจ้าทัศนคติ เจ้าแนวความคิดความเห็นที่ว่ามานั้น..
มันมาจากไหน ?  พอทารกมันปู๊ดออกมาจากจิ๋มมารดาจากมดลูกแม่ปั๊บ !!

มันก็มีกันเลยเรอะงัย ? ไอ้ทัศนคติเนี่ย.. 
ไม่น่าใช่นะคับ ว่าป่าว ?

แล้วมันถูกสร้าง(หรือถูกควบคุม).. ด้วยอะไรกัน !!

ผม
(แอดมินเป็ด)ว่ามันมาจาก..


๔. ความเชื่อ

คิดมั่วๆตามไอ้เป็ดดูนะครับ

- เชื่อว่าตายแล้วเกิด ตายแล้วสูญ
- เชื่อเรื่องนรก เชื่อเรื่องสวรรค์ เชื่อเรื่องโลกหน้า เชื่อเรื่องบาป เชื่อเรื่องบุญ
- เชื่อเรื่องผี เชื่อเรื่องเจ้าที่ เชื่อเรื่องนางไม้
- เชื่อเรื่องหลุมดำ เชื่อเรื่องจักรวาลคู่ขนาน เชื่อเรื่องมีมนุษย์โลกอื่น(ต่างดาว)
- เชื่อเรื่องลางดี เชื่อเรื่องลางร้าย เชื่อเรื่องโชคดี เชื่อเรื่องโชคร้าย เชื่อเรื่องบุพเพสันนิวาส
- เชื่อในวิทยาศาสตร์ เชื่อเรื่องโมเลกุล เชื่อเรื่องอะตอม เชื่อเรื่องอีเล็คตรอน
- เชื่อเรื่องมนุษย์ไม่เคยไปดวงจันทร์ เชื่องเรื่องโลกแบน เรื่องเรื่องพระราหู

เรื่องๆๆๆๆ  ... ฯลฯ.... บลาๆๆๆๆ.... บลาๆๆๆ..... ฯลฯ

เห็นด้วยกับเจ้าเป็ดมั้ย.. ว่าคนที่เชื่อโชคลาง แล้วไม่ทำสิ่งนั้นๆที่ควรต้องทำ.. เพราะฤกษ์ไม่ดีมันมีจริงๆ

เห็นด้วยกับเจ้าเป็ดมั้ย.. ว่าคนที่ไม่เชื่อว่าเคยมีคนไปดวงจันทร์ มันก็จะเอาแต่พูดว่า CG คอมพิวเตอร์กราฟฟิคๆ
ขนาดไดโนเสาร์ของหนังจูราสสิคพาร์ค คนสีฟ้ามีหางสูงสามเมตรในอวตาร์ยังมีได้ 
ประสาอะไรกับการที่นาซ่าจะหลอกคนทั้งโลก มันจะทำไม่ได้.. คนอย่างนี้มันมีจริงๆ

เห็นด้วยกับเจ้าเป็ดมั้ย.. ว่าคนที่เชื่อเรื่องสวรรค์แบบงมงาย และไม่เคยคิดจะอ่านพระไตรปิฎกแปล 
มันก็เอาแต่ไปทำบุญ ๙ วัด.. เวลาที่หมอดูทักว่ากำลังซวยๆๆๆ  มันมีจริงๆในสังคม !!

ถ้าความเชื่อมันบังคับพฤติกรรม(การกระทำ)ของเราได้ขนาดนี้..

มันย่อมเป็นไปได้.. ที่คนบางคน จะเชื่อว่า มีบางอย่างทำไม่ได้

และมันก็ย่อมเป็นไปได้.. ที่จะมีคนบางคนเชื่อว่า กรุทำได้

เห็นมั้ยครับ.. 
ใน เรื่องหนึ่งเรื่อง ..

มีทั้งคนที่คิดว่า ทำได้ 
และคนที่คิดว่า อย่าไปทำเลย มันทำบ่อได้ดอก !!

แปลกมั้ย.. พี่น้อออองงงงงงง !!  :-X 

ถ้ามั่วต่อตามไอ้เป็ดแอดมิน..

ตั้งแต่เราเกิดมา.. จนอ่านออกเขียนได้ มีเมีย มีผัว อึ๊บคนนั้น เอาคนนี้ มีลูก มีเพื่อน มี ฯลฯ .. บลาๆๆๆ..

มันมีความเชื่อในหัวของพวกเรา..กี่เรื่องกันฟร่ะ .. นึกตามแล้วจะยิ้มครับ.. !!

มันเข้ามาในหัวเราได้งัย 

มันเข้ามาโดย.....


๕. สารพัดข้อมูล..ที่ป้อนเข้าในสมอง

การ "ถูกป้อนข้อมูล" แบ่งออกเป็นหลายระยะนะครับ..

แบบเจ้าเป็ดแอดมิน.. ก็จะแบ่งเป็น

ก.. วัยไร้เดียงสา.. จะถูก "ป้อนข้อมูล" เพื่อให้สามารถ..รับมือกับสถานการณ์ที่เด็กๆทุกคนต้องเจอ.. แน่ๆ
  ก.๑ การต้องเรียนรู้ในการเอาตัวรอดเบื้องต้น ( กิน เดิน นอน ขับถ่าย ร้องเมื่อหิว เงียบเมื่อถูกโอ๋ ฯลฯ )
  ก.๒ การต้องเรียนรู้การอยู่ร่วมกับสังคม ( แบ่งของเล่น หัวเราะกับเพื่อน อารมณ์ดีเมื่อได้ของเล่นที่ชอบ ฯลฯ )

ข. เริ่มจะมีเดียงสาจะได้รับ "ข้อมูลจากผู้ใหญ่" เพื่อจะได้เข้าใจการอยุ่ใน ๓ สถานะ ดังต่อไปนี้..
  ข.๑ วัยประถมก่อนมีอารมณ์เพศ การได้เป็นหัวหน้า หรือการได้แค่เป็นลูกน้องของกลุ่ม การเล่นเกมส์ทุกประเภท ฯลฯ
  ข.๒ การสอนจาก พ่อ แม่ สังคม ครู เพื่อน สื่อ(มีเดีย)รอบๆตัว ทั้งถูกวิธีการหลักการ และผิดวิธีการ ฯลฯ
  ข.๓ พฤติกรรมเลียนแบบที่ขาดความเอาใจใส่ เช่น การก้าวร้าว การเอาแต่ใจ การเปลี่ยนเพศ การโกหก ฯลฯ

ค. มีเดียงสา ( รู้จักอารมณ์เพศ ) จะถูก "ป้อนข้อมูล" เพื่อให้สามารถ..รับมือกับเรื่องราวของเรื่องที่ "เริ่มซับซ้อน" ....
  ค.๑ การรู้จักการควบคุมด้านมืดของเพศ การเสียตัวครั้งแรก การช่วยตัวเอง 
  ค.๒ การฟรีเซ๊กซ์ การเมามัวในเรื่องเพศ การคบเพื่อนต่างเพศ การรู้จักควบคุมอารมณ์ทางเพศ
  ค.๓ การตั้งใจเรียน การรู้ว่าตนต้องเรียนอะไร การรู้ว่าชอบสาขาใด การรักษาศีลห้าขั้นต้น การละอายเมื่อทำผิด
  ค.๔ การปรึกษาผู้รู้เมื่อเผชิญปัญหา การคบเพื่อนชั่ว การไว้ใจพ่อแม่ การไว้ใจครู การวิเคราะห์คนแปลกหน้า 

ง. วัยมหาวิทยาลัย ( รวมถึง ปวส. ปวท. ) จะถูก "ป้อนข้อมูล" เพื่อให้สามารถรับมือกับเรื่องแนวๆ.." เครียดนะเนี่ย" !!! 
  ง.๑ ความเข้าใจว่า ทำไม ? ต้องเรียนให้สูงที่สุด โดยไม่ต้องอ้างหรือบ่ายเบี่ยงว่าไม่มีโอกาส หรือไม่มีทุน
  ง.๒ ความเข้าใจเรื่อง ทำไม ? ต้องมีคำว่า "การฝึกงาน"
  ง.๓ ความเข้าใจเรื่องความหลากหลายของสังคม โดยฝึกเอาจากการได้อยู่ร่วมในสังคมการเรียนในวัยมุทะลุดุดัน ระดับอายุ ๑๙ - ๒๔ ปี

จ. วัยทำงาน รวมทุกข้อมูลในขั้นตอน ก.ข.ค.ง. และขั้นตอนแบบข้อ ง. เมื่อตะกี๊ ก็ให้ทำการเปลี่ยนตัวละคร และเปลี่ยนสิ่งแวดล้อม

ฉ. วัยพ่อคน-แม่คน รวมทุกข้อมูลในขั้นตอน ก.ข.ค.ง.จ. เมื่อตะกี๊ .. แต่เพิ่ม "ชีวิต" มาให้ "รับผิด-รับชอบ"

ช. คนรุ่นต่อไปของประเทศนั้นๆ.. โดยให้คิดข้อมูลรวมทั้งหมด ที่ได้รับการ "ป้อน" ตั้งแต่ข้อ ก,ข,ค,ง,จ และ ฉ 

เชื่อป่าวๆๆ ข้อ ก ถึง ช จะสามารถบอกได้ !!

ว่าใคร ? จะเป็นขยะโลก หรือ กำลังจะเป็นขยะโลก หรือ กำลังจะสร้างขยะโลก เลยคร้าบบบ !!


เพราะตั้งแต่ ข้อ ก,ข,ค,ง,จ และ ฉ มีโคตรพ่อโคตรแม่อลังการข้อมูลอยู่ทุกขั้นตอน !!!

และส่งผลตรงไปยังข้อ ๑. ว่าด้วย 


การกระทำ แบบเต็มๆครับผม !!


ดังนั้น !!!
สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตของวัยเด็ก
จะมีผลต่อเด็กคนนั้นตลอดไป !


ที่ผมเอามาขึ้นหัวพาด...

จึงฟังขึ้นครับ พี่น้องงงงงงงงง !!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น