วันอังคารที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2556

บ้าน "รก" & ขนมเคลือบผงชูรส

ต้นฉบับจาก...
http://wp2.kindman4all.com/2012/11/17/private/#comments[/url

ไปอ่านข้อวิวาทะได้ที่..
ก่อนเฉลยนิทาน http://smf.kindman4all.com/index.php?topic=10.0
หลังเฉลยนิทาน http://smf.kindman4all.com/index.php?topic=47.0



สมนึก
 …
มีปัญหาบางประการด้านการงาน…มาให้เผชิญในชีวิต.. ตอนอายุปลาย ๔๐ ..ที่ทำให้สมนึก ถึงกับ จิต-ตก

แต่ด้วยบุญกรรมอะไรก็ตามที..
ปรากฏว่า สมนึก มีเพื่อนรุ่นน้องที่สนิทสนมกัน ในระดับเกือบจะกัลยาณมิตรอยู่คนหนึ่ง..
ชื่อ สมควร ..
ซึ่-สมควร-นั้น..ได้เคยออกปากรับคำกันไว้กับ-สมนึก-ว่า.. 
ถ้าวันหนึ่ง..ชีวิตมันหนักหนากับพี่มากนัก..ก็มาพักอยู่กับผม(สมควร) กันซักพอให้หายเครียด.. แล้วค่อยหาลู่ทางดำรงชีพ..อันหน้าบ้าน(อาคารพานิชย์ ๓ ชั้น) ของผม..มีชั้นล่างที่ไม่ได้ทำกิจการกิจกรรมอะไร…หากไม่รังเกียจ..พี่สมนึกก็เปิดร้านซ่อมไอโฟนมันซะตรงนี้…เมื่ออยู่ตัวเข้าท่าเข้าที่เข้าทางแล้ว..จะกลับไปเผชิญชีวิตเองต่อ..หรือจะเช่าชั้นล่างผมให้เป็นเรื่องเป็นราว…ก็ค่อยๆว่ากันไปก็แล้วกันนะพี่นะ..

แอดมิน..
ก็ขอรวบรัดตัดตอนนิดนึงครับ…ว่า..
สรุปเบื้องต้น..

สมนึก-ก็ได้มาพักอาศัยอยู่ที่บ้าน-สมควร แบบกึ่งอาศัยกึ่งทำงาน….โดยทั้งสองพี่น้องต่างสายเลือดคู่นี้ มีสัญญาลูกผู้ชายประมาณว่า..
สมนึก-นั้น..เมื่อ(จิต)ปกติ..และการเงินคงที่เมื่อไหร่.. เราทั้งสองก็ค่อยหารือเรื่องกันให้ละเอียดกันอีกที…. 
สำหรับ-สมนึก…เนื่องจาก "หมดสภาพ" เชิงการเงินอย่างหนัก.. เมื่อย้ายเข้ามาร่วมชายคา…
ช่วงแรกๆ..จึงทำได้เพียงช่วยเรื่องกับข้าวในบางมื้อ,ซื้อสบู่,ซื้อยาสีฟัน..ไปตามเรื่องตามราว(ตามอัตภาพ)..
ซึ่งตัว "สมควร" ก็ไม่ติดใจอันใด ด้วยความมั่นคงในชีวิตสูงกว่า-สมนึก…..มากกว่ามาก

คราวนี้..ก็เป็นส่วนรายละเอียดเล็กๆน้อย…ของทาง "สมควร"..

อันว่า..ที่บ้านของ.."สมควร"..นั้น  อยู่กัน..เป็นครอบครัวเล็กๆ เป็นครอบครัวที่ประกอบด้วย..
ตัวของสมควร..
แม่ของสมควร
ลูกสะใภ้(เมียของสมควร)
สมควรยังมีลูกสาวตัวน้อยวัยแปดขวบ และลูกชายวัยกำลังพอซนวัยหกขวบ รวมแล้ว..สี่ชีวิต ..

สำหรับตัวสมควรนั้น…วันนี้ก็อายุเข้า ๓๕ ..เติบโตขึ้นมาในสภาพเป็นลูกกำพร้าพ่อ(ตาย)ตั้งแต่ยังเล็ก(เพียงสามขวบ).. ตัวคุณแม่ของสมควรนั้น..ท่านก็อุตสาหะเลี้ยงลูกแบบ .. "แม่เดี่ยว".. มาตั้งแต่วัยสาวเต็ม.. จนปัจจุบันอายุก็ย่างเข้าหกสิบต้นๆ.. 
ส่วนนี้…แอดมินเล่าไว้..เป็นกรณีตัวอย่างที่ประทับใจแอดมินเป็นส่วนตัว…ว่าคุณแม่ของสมควรนั้น..ช่างน่าชื่นชมสรรเสริญในเชิงชิวิตยิ่งนัก..
….ว่าด้วยอาชีพคุณครูอนุบาลเงินเดือนน้อยนิด..ท่านก็พยายามเลี้ยงลูกคนเดียวของท่าน..ให้เติบโตขึ้นมาเป็นคนที่….ถือได้ว่า 
"นายสมควร…เป็นลูก..ที่ท่านพยายามปั้นแต่ง…ให้ไม่เป็นขยะประเทศ"

ขอ-วก-กลับเข้ามาเรื่องของสมนึก… 
แม้ว่าด้วยวัยสี่สิบแปดไม่เต็มดี..จะไม่อาจถือได้ว่าสมนึกเป็นคนชรา.. 
แต่วัยร่วมห้าสิบของสมนึกนั้น.. ก็ไม่อาจลบลักษณะของคนเริ่มแก่ไปได้..นั่นคือ…
สมนึก..หลงรักหลานชายหญิงทั้งสองแบบหาข้อแก้ตัวไม่ได้.. และ..ด้วยสัดส่วนของวัยที่สมดุลย์-ระหว่างผู้ใหญ่และเด็กทั้งสอง.. 
ความสัมพันธ์ที่ก่อขึ้น.. จึงหนีไม่พ้น..
บรรยากาศแบบ.. ตา – กับ – หลาน ..ที่เราๆท่านๆมักจะพบเห็นได้ทั่วๆไปในสังคมไทย..

ประเด็นมันเริ่มขึ้น…เมื่อ.. 
คุณตา"สมนึก"… สังเกตุเห็นว่า.. หลานทั้งสอง.. "ไม่เคย".. เก็บขยะที่เกิดจากการกินขนมแล้วมีเศษขนม หรือจากห่อขนม(ซึ่งแน่นอนเป็นเศษพลาสติค) … คุณตา"สมนึก" ..ซึ่งครั้งหนึ่งเคยประกอบอาชีพ "ครู" ( แม้จะเป็นระยะสั้นๆเพียงสามปี) .. แถมคุณตา "สมนึก" นั้นเป็นอดีตลูกนายทหารเก่าอีกต่างหาก… จึงเกิดความขัดอกขัดใจโดยทันที…แต่อันความ "ไร้ระเบียบ" ที่เห็นขัดหูขัดตาแม้จะมากมายเพียงใด.. คุณตา "สมนึก".. ก็ทำได้ก็เพียง เก็บขยะที่หลานทิ้งๆขว้างๆนั้น…(รวมถึงการต้องเก็บกวาดถูบ้านชั้นล่าง) ..ไปตามประสา.. 
ด้วยยังไงๆ.. คุณตา"สมนึก".. ก็เป็นเพียงคนนอกเท่านั้น..

กาลเวลาผ่านไป…..ไวปาน-นิทานอีสป…

ความอัดอั้นตันใจเรื่อง "ความไม่มีระเบียบ+ขยะ" …
ตลอดเวลาห้าเดือนกว่าๆ ..ในฐานะ "ผู้อาศัย" ..ของคุณตา "สมนึก".. 
พอกพูนเป็นดินติดหางหมู.. หนักเป็นหลายเท่าทับทวี..
เรื่องที่หลายคนอาจเห็นว่า "เล็กน้อย" แบบนี้ .. 
กลับกลายเป็นเรื่องหนักหนาสาหัส ระดับคอขาด-บาดตายขึ้นมาในมุมมองของคุณตา "สมนึก" ..
แบบที่เรียกกันว่า "เป็นประเด็น" .. ที่.. "ไม่อาจปล่อยวาง".. ได้เลยทีเดียว..
เพราะ คุณตา-สมนึกได้ "เห็น" เรื่องต่อไปนี้ .. ตลอดเวลาร่วมๆหกเดือน…

๑.ลูกสะใภ้.. 
เป็นคุณแม่ลูกสองที่ "สกปรก" ที่สุดในบ้าน..ไม่มีอะไรที่เธอ "แกะ" ออกมาจากห่อหรือซอง แล้วมันจะอยู่ที่เดิม.. ยกเว้นเศษซอง… ของๆหล่อน..จะมี "ขา" เสมอ..จะหา,หยิบ,จับ หรือ ใช้อะไร ต้องหาโดยใช้เวลาไม่น้อยกว่าสิบนาที.. จานชาม..ไม่ล้างในอัตรา สิบครั้ง..เก้าไม่ล้าง-ล้างหนึ่ง… ขยะ,เศษสิ่งของ,เครื่องสำอางค์,กระดาษซับที่ไม่ใช้แล้ว ฯลฯ ..ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่ง…
ที่ต้องเรียกว่า… "พ่อแม่ไม่สั่งสอน" ( ไม่ใช่ลักษณะพ่อแม่สอน-แล้วไม่จำ) ..
และที่คุณตา "สมนึก" ทึ่งแบบงงๆก็คือ ..
"เธอ".. อาบน้ำด้วยเวลาไม่ถึง "สามนาที" !!! .. โอ..จอร์จ.. มันยอดมาก

๒. สมควร..
เป็นคนที่ "รก" แบบเป็นที่เป็นทาง… คือไม่ทำบ้านรก.. แต่สิ่งรอบตัวรอบๆโต๊ะทำงาน..จะไม่มีการเก็บไปทิ้งขยะ..เช่น..ขวดโรลออลทาจั๊กแร้ที่หมดน้ำยาแล้ว…แก้วกาแฟ..ซองบุหรี่..เศษบิลค่าไฟ-น้ำ.. ไม้แคะหูที่ใช้แล้ว ฯลฯ 
( จะต้องไม่มีใครเชื่อ.. ถ้ารู้ว่าสมนึกมีอาชีพประพันธ์เพลงประกอบภาพยนตร์ เรียบเรียงเพลง และเป็นนักตนตรีแจ๊ส… ที่ได้ชื่อว่าเม็ดโน๊ตที่เขียน..ให้เสียงสะอาด..และมีศิลปะ.. ในระดับต้นๆของกรุงเทพฯ)
 … ภาพโดยรวมก็คือ.. เป็นคน "ทำงานดีมาก-คิดงานดีมาก".. แต่โต๊ะและห้องทำงาน… เหมือนที่เราพบเห็นบนโต๊ะหรือห้องของ..พวกศาสตราจารย์สติเฟื่อง…ในภาพยนตร์ฝรั่ง..

๓. หลานรักทั้งสอง..ของ "คุณตาสมนึก" .. ก็คงเดากันไม่ยาก… ท่านผู้อ่านย่อมเคยได้ยิน..คำว่า….พฤติกรรม"เลียนแบบ" กันใช่มั้ย ???

๔. คุณย่า..
แม้จะขี้บ่นกับหลานๆ..และขี้ลืม
..ตามประสาคุณย่าผู้สูงวัย…
(การปล่อยให้เตาแก๊สทำกะทะเป็นรู.. หรือ การปล่อยน้ำล้นห้องสุขา..เป็นเรื่องปกติของท่าน)…

ในสายตาของ -สมนึก-ท่าน(คุรย่า)..คือคนเดียว..ที่ยังมีระเบียบ และ เป้นคนที่ "สะอาด" ที่สุด..ของบ้านนี้

และแล้ว…"แก่น" เรื่อง… ของนิทานเรื่องนี้..ก็เกิดขึ้น…


…ที่หน้าห้องทำงาน(แต่งเพลง) .. ของ-สมควร .. 
จะมีถังขยะขนาดสูงเท่าหัวเข่า.. หน้าตาเหมือนถังขยะของเทศบาลที่ย่อส่วน..อยู่หนึ่งถัง..

ถังนี้..คุณตา "สมนึก" ผู้เจียมตนว่าเป็นผู้ขออาศัยเขาอยู่..ใช้เป็น "ถังพักของ" .. จากถังขยะจิ๋วในห้องของสมควรอีกที … เป็นอันเข้าใจกันดีสำหรับสองชายของบ้านนี้ .. โดยไม่จำเป็นต้องทำสัญญา..หรือลายลักษ์อักษรใดๆทั้งสิ้น.. 
ว่าเมื่อขยะล้นถัง .. ชายรุ่นพี่ที่สูงวัยกว่า.. 
จักเป็นคนเอาขยะไปเท.. ใส่ถังยักษ์หน้าถนนหลวงอีกที.. 
สมควรเอง….ก็พอมองออก.. ว่า..กิจกรรมทิ้งขยะนี้..
มันเป็นความสุขเล็กๆ ของ คนที่พออาจเรียกได้ว่า..มีความเป็นระเบียบอยู่ตามสมควร..และสมวัย…เช่นคุณตา "สมนึก"

ดังเช่นทุกสี่วันเหมือนที่เคย.. วันนี้…คุณตาสมนึกเห็นถังย่อส่วนอันคุ้นเคย..เต็มปรี่ไปด้วยขยะ..
…ก็ดึงถุงดำ(ที่ใส่ซับไว้กันฝุ่นผงและเศษผม).. ขึ้นสูงเสมอ-อกตัวเอง…
….เพื่อจะมัดปากถุง…

"ผลุบ"..  
เสียงก้นถุงขาด.. และสิ่งมีชีวิต…สีขาว-เหลืองอ่อน..
ตัวอวบขนาดก้านไม้ขีด..และยาวเท่าปลายเล็บก้อย..ก็ร่วง-กราว
ยุ่บยับและนับได้มากพอ..ที่จะท่วมพูนชามก๋วยเตี๋ยวเด็ก….
ก็กองเป็นสง่า… อยู่ก้นถัง.. 
..ส่งกลิ่นเฉพาะที่ยากต่อการจินตนาการ..และบอกเล่าด้วยตัวอักษร
( เจ้าถังที่เอาไว้ใช้ทิ้งเศษของแห้ง…ได้มีการทิ้งเศษอาหารซะแล้ว !! )

ในที่สุด…ฟางเส้นสุดท้ายที่วางบนหลังอูฐ..แต่ก็ทำให้อูฐถึงกับหลังหัก
…ก็มาถึง..

"คุณตาสมนึก" .. นั่งมองหนอนแมงวันที่ก้นถังได้สักพัก..
รวมสมาธิทำใจได้ระดับหนึ่ง..ก็ยกถัง..และถุงดำลงมาจากชั้นสอง..
เดินไปทิ้งหน้าบ้าน…ตามปกติ.. 
แต่ทุกวินาทีนับตั้งแต่.. ก้นถุงขาด… จนถึงวินาที-ที่คุณตาสมนึก
นำถังขยะที่แกล้างทำความสะอาดจนเรียบร้อยไปวางไว้ที่เดิม..บนชั้นสอง…

ขั้นตอนมากมายที่ผ่านมาค่อนชีวิต.. นับตั้งแต่วัยเด็กลูกทหารของคุณตาสมนึก.. มาจนถึงช่วงเวลาการทำอาชีพครูวิทยาศาสตร์  .. ผ่านล่วงช่วงรุ่งโรจน์ของชีวิตในฐานะนักขายประกัน … ผ่านช่วงการเป็นเจ้าของบริษัทคอมพิวเตอร์ … ข้ามถึงระยะเริ่มตกต่ำแต่ก็ยังถือได้ว่าเป็นเจ้าของร้านอาหาร… ผ่านช่วงๆๆๆๆๆๆ…… กินเวลาทั้งสิ้นเพียง ๒๐ นาที … แต่ฉากชีวิตทั้งหมดที่ต้องผ่านการบริหารนิสัยคนในด้าน …."ความสะอาดและความระเบียบ" …. ได้ถูกย่อและเรียบเรียงขึ้นใหม่ในสมอง…

"ฉันต้องจัดการเรื่องนี้…ก่อนเด็กๆจะนิสัยเสีย..+ และทุกอย่าง..จะสายเกินไป.. !!!"
นี่คือเสียงที่ก้องและวิ่งวนอยู่ในความคิดของคุณตา "สมนึก"

แต่อย่างไร … ทักษะชีวิตที่พอมีอยู่บ้าง.. ได้เตือน "คุณตาสมนึก"….ว่า ….
มีผู้ใหญ่คนหนึ่ง…ซึ่งยังหายใจ..และยืนโด่อยู่เป็นพระประธานในบ้าน..
การจะทำการณ์ใดๆ…โดยพละการ…ย่อมเป็นการไม่เหมาะควร..

คุณตาสมนึก..จึงรวบรวมเรื่องราวในหัว…ออกมาเป็นคำพูด ..
อย่างเป็นขั้น..มีตอน.. เข้าปรึกษาผู้ใหญ่ที่สุดในบ้าน ..

และคำตอบที่ออกจากปาก ผู้ที่ผ่านอะไรๆมา-มาก..
ก็มีอยู่แค่เพียงไม่กี่ประโยค…
ว่า……

คำพูดคุณแม่ของสมควร…
" เข้าใจเธอนะ..ว่ามันแก้ที่ตัวพ่อ-แม่ไม่ได้แล้ว….
แต่จำไว้นะ…..
การแก้ไข .. อะไรก็เถอะ .. สำหรับเด็กๆ แล้ว…
มันสำคัญตรงที่ … สิ่งที่เด็กเห็น
ถ้าพ่อ-แม่.. มัน…รก.. .. 
แผนการณ์อะไรที่เธอวางแผนสวยๆหรูๆ..เล่ามาให้แม่ฟัง..นั่นน่ะ
มันก็ไร้ประโยชน์.. เธอเคยได้ยินมั้ย…
คำว่า.. อยากให้เด็กดี…ก็ทำดีให้เด็กดู…..นั่นหน่ะ…

สมนึก..ก็เคยเรียนครูมาไม่ใช่เหรอ….
การคิดแบบครูนั้น… ต้องเข้าใจความคิดของเด็ก…ที่เขาคิดอยู่
ไม่ใช่.. วางแผนให้เด็ก… เข้าใจความคิดของผู้ใหญ่ที่เป็นครู..

หากเด็กมันสามารถ..พูดย้อนเถียงพ่อ-แม่ … ของมัน
ว่า…ทำไม… ทีพ่อ กับแม่….ยังไม่เห็นเก็บขยะ
แผนการอะไร..ของสมนึกมันก็ไม่มีประโยชน์อะไรหรอก…เสียเวลาเปล่า… "

คุณสมนึก……" !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! "

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น